Nippon Baby รักหวานมันโฮมรันหัวใจเจ้าชายเบสบอล

Nippon Baby รักหวานมันโฮมรันหัวใจเจ้าชายเบสบอล

โดย เจ้าหญิงผู้เลอโฉม

 

 

บทนำ
忘れられない人
(คนที่ไม่มีทางลืมลง)

 

“โอก้าซัง (คุณแม่) ซ่อมกระดุมให้แล้วเหรอ”

“หืม? อ๋อ” มาซารุคุงก้มหน้าลงมองกระดุมตัวเองตามฉันจากนั้นจึงหัวเราะแผ่วเบา “ต้องซ่อมแล้วสิครับ ไม่งั้นผมโดนเซ็นเซย์ด่าพอดี”

“นั่นสินะ T^T”

“ถามใหญ่เลยล่ะว่าผมไปทำอะไรกับกระดุมมา”

“ขอโทษจริงๆ นะ T_T”

“ไม่เป็นไรครับ ตลกดีออก” มาซารุคุงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน… ที่เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก (ปกติมีแต่ฮากับดุด่าว่ากล่าว T_T) และน้ำเสียงแบบนั้นก็ทำให้ฉันเผลอเงยหน้าขึ้นไปเพราะอยากจะมองหน้าเขาตอนพูด…

และก็พบว่าใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก…เพราะมาซารุคุงยังก้มหน้ามองกระดุมอยู่นั่นเอง…

เอาอีกแล้ว… นัยน์ตาสีเฮเซลคู่นั้นพาหัวใจฉันไปเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์อีกแล้ว…

“คุณยายของฉัน…” เพราะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับความรู้สึกเหมือนหัวใจหวิวๆ แบบนี้ ก็เลยเสมองไปทางอื่นแล้วเปลี่ยนเรื่อง “เมื่อก่อนก็ซ่อมเสื้อผ้าให้ฉันบ่อยๆ เหมือนกัน เพราะว่าฉันชอบเอาแต่เหม่อจนหกล้ม ไม่ก็เดินเกี่ยวนั่นเกี่ยวนี้จนเสื้อกับกางเกงขาดประจำเลย”

“ผมพอนึกออกครับ”

“นั่นไม่ได้จะด่าฉันทางอ้อมใช่มั้ยมาซารุคุง T^T”

“ก็พูดตรงๆ นี่ครับ” เขาตอบหน้าตายก่อนจะยิ้ม… ไอ้รอยยิ้มสดใสเหมือนนกน้อยนั่นพอเถอะ ฉันเห็นแล้วโกรธไม่ลงจริงๆ ไม่แฟร์เลย T_T

“ผมล้อเล่นนะครับ ขอโทษนะ” มาซารุคุงพูดพร้อมกับยื่นมือมาจิ้มแก้มฉันที่หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟสุดฤทธิ์ จากนั้นจึงเอียงคอมองหน้าฉัน “แต่คุณแม่ก็ชมนะครับว่าเซ็มไปน่ะฝีเย็บดี ถ้าไม่ผิดด้านก็คงจะเก่งกว่าคุณแม่ซะอีก”

“ขอบคุณที่ปลอบใจนะ” ฉันถอนหายใจอย่างหม่นหมองก่อนจะหัวเราะ “ก็ต้องทำได้บ้างแหละน้า เพราะฉันนั่งดูคุณยายเย็บผ้ามาตั้งแต่เด็ก ถึงฉันจะหัวช้าจนน่าทึ่งแต่ก็พอจับทริคอะไรมาได้บ้างนิดหน่อย…”

“พูดแบบนั้นอีกแล้ว”

“…เอ๋?”

น้ำเสียงจริงจังของมาซารุคุงที่จู่ๆ ก็ขัดฉันขึ้นมาทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าเขา แล้วก็พบว่านัยน์ตาสีเฮเซลคู่นั้นกำลังจ้องมาอย่างจริงจัง

“ก่อนหน้านี้ก็พูดว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง”

“…ก็มันเรื่องจริง…”

“จะเป็นอย่างนั้นได้ไงล่ะครับ”

เสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อยทำเอาคนบนรถไฟหันมามอง แต่เจ้าชายเบสบอลสุดหล่อไม่ได้สนใจเลยสักนิด….

“ถึงเซ็มไปจะหัวช้า เอ๋อ ขี้ลืม โก๊ะ เดินไม่ระวัง พูดจาแปลกๆ คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น…”

โอ๊ะ TOT จัดเต็มขนาดนี้ผลักฉันออกจากรถไฟเลยดีกว่าค่ะ TTOTT

“…แต่เซ็มไปก็เป็นคนใจดี”

“…!?”

“แล้วก็เป็นคนพูดอะไรตรงๆ เอาใจใส่คนอื่นมากกว่าตัวเอง…”

“…”

“อย่างวันนั้นที่สวน…ก็ยังเห็นเซ็มไปแบ่งข้าวปั้นให้แมวจรจัดแถวนั้นอยู่เลย”

“เอ๊ะ…?”

ฉันเอ่ยถามออกไปอย่างมึนงงเมื่อได้ยินประโยคปิดท้ายของมาซารุคุง…ที่ไม่คิดจะตอบอะไร เพียงแต่ส่งยิ้มบางเบาที่มุมปากมาให้ฉันเท่านั้น…

[มาโมนาคุ ฮิงาชินากาโนะ…ฮิงาชินากาโนะ]

“อ๊ะ! นี่คือสถานีบ้านมาซารุคุงใช่มั้ย!?”

“…ทีบ้านคนอื่นน่ะจำแม่นเชียวนะครับ”

“แหงสิ เพิ่งบอกมาเมื่อกี้เองฉันจะลืมได้ไงกัน” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้เขา “บ๊ายบาย~ ขอบคุณนะที่ให้ใช้ร่ม ดีใจที่ได้กลับบ้านด้วยกันนะ >_< กลับบ้านดีๆ ล่ะ! พิตเชอร์หนุ่มน้อยมือซ้ายร้อยล้าน!”

มาซารุคุงหัวเราะเสียงใสน่ารัก พอดีกับที่รถไฟแล่นช้าลงก่อนจะจอดสนิทเทียบชานชาลา

“แล้วก็ที่พูดเมื่อกี้…ฉันดีใจมาก”

“ครับ”

“ขอบคุณนะ”

“เซ็มไป…จะกลับถึงบ้านได้ใช่มั้ยครับ ไม่ลืมกุญแจบ้านแล้วใช่มั้ย”

“ได้สิ! ไม่ต้องห่วงนะ! กุญแจบ้านอยู่ในกระเป๋า!”

“พอพูดอย่างนี้สิยิ่งน่าห่วง”

“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า! ฉันจำได้แล้วว่าสถานีชื่อยาวๆ น่ะอยู่ถัดจากสถานีนี้ไปอีกสองสถานี!”

[ประตูกำลังจะปิด…]

“กรี๊ดดด รีบไปเร็วมาซารุคุง!” ฉันพูดอย่างแตกตื่นเมื่อได้ยินเสียงประกาศเตือน พร้อมกับรีบดันเขาให้ออกไปก่อนที่คลื่นมนุษย์จะถาโถมเข้ามาจนออกไม่ได้…

ทว่าฉันเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายโดนคลื่นมนุษย์ถาโถมเข้าใส่จนเกือบจะล้มหน้าทิ่ม OoO กรี๊ด ทำไมเปิดมาไม่กี่บทฉันถึงต้องล้มหลายครั้งหลายคราขนาดนี้ หน้ายิ่งพิลึกอยู่ ประเดี๋ยวคนเค้าก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นตัวร้ายหรอก TTOTT

“อาบุไน่! (อันตราย!)”

เสียงนุ่มๆ… กับท่อนแขนแข็งแรง… และกลิ่นน้ำหอมอ่อนจางแบบสปอร์ต…

“…ให้ตายเถอะ…ไม่ทันขาดคำเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย”

“โกเมนเนะ T_T (ขอโทษนะ)”

“ไม่เป็นไรครับ ผมก็กะไว้อยู่แล้ว” มาซารุคุงพูดพร้อมกับกระชับอ้อมแขนที่กอดเอวฉันอยู่ให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้ฉันไหลไปนอนเป็นปลากระเบนบนพื้นรถไฟให้ประชาชนเหยียบ T_T ประตูปิดลงภายในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น… รถไฟเคลื่อนขบวนอีกครั้ง และหัวใจของฉันก็เร่งสปีดแข่งกับรถไฟไปด้วย ตอนนี้เต้นแรงและเร็วประมาณแปดร้อยไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว… (เครื่องบินหรือไง?)

ทำไมกันนะ ไม่เข้าใจเลยสักนิด… หัวใจฉันไม่ใช่ลูกเบสบอลที่มาซารุคุงขว้างไปสักหน่อยนะ ทำไมถึงได้เร่งสปีดตามสัมผัสของเขาขนาดนี้…?

“…กะว่าฉันจะล้มน่ะเหรอ?”

“กะจะไปส่งที่บ้านต่างหากล่ะครับ”

“…เห็นฉันดูช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“คงงั้นมั้งครับ คนที่จำกระทั่งชื่อสถานีบ้านตัวเองไม่ได้มันก็น่าห่วงอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“โอเค คืนนี้ฉันจะเขียนชื่อสถานีแปะผนังห้องนอนไว้เลย”

“ต่อจากชื่อของผม แล้วก็ที่บอกว่า ‘ห้ามลืมกุญแจ’ น่ะเหรอครับ”

“…วันน้ีฉันไม่ได้ลืมจริงๆ น้า!”

“ครับ ครับ :)”

 

 

ภาพประกอบจากเรื่อง Nippon Baby รักหวานมันโฮมรันหัวใจเจ้าชายเบสบอล

ภาพประกอบจากเรื่อง Nippon Baby รักหวานมันโฮมรันหัวใจเจ้าชายเบสบอล

 

 

ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือ

ราคา 219 บาท

จำนวนหน้า 328 หน้า

 

 

รายละเอียดหนังสือ Nippon Baby

รายละเอียดหนังสือ Nippon Baby

 

 

ความในใจจากผู้เขียน

 

ตอนที่เขียนเรื่องนี้เรามีโจทย์ในใจว่า “หน้าร้อน”

และพอพูดถึงหน้าร้อนของญี่ปุ่น สิ่งแรกๆ ที่คนเราจะนึกถึงก็น่าจะเป็น ทะเล น้ำแข็งไส ฮานาบิไทไก (งานดอกไม้ไฟ) เทศกาลฤดูร้อน จั๊กจั่น เครื่องแบบฤดูร้อน อะไรทำนองนั้นใช่มั้ยคะ ซึ่งจริงๆ ในเรื่อง Nippon Baby นี่ก็มีแทบจะครบทุกอย่างเลยค่า เพิ่มเติมคือ “เบสบอล”​ ค่ะ >////<

พอตัดสินใจได้แล้วว่าอยากจะมีพระเอกเล่นเบสบอล เราก็เลยวางให้ “ฮาเซคาวะ มาซารุคุง” นี่แหละเป็นพิตเชอร์ร้อยล้าน แล้วขั้นตอนต่อไปคือไปนั่งศึกษากติกา วิธีการเล่น วัฒนธรรมการเล่นเบสบอล และบรรดาผู้เล่นชื่อดังทั้งหลายแหล่ รวมถึงดูคลิปการแข่งย้อนหลังด้วยค่ะ ดูจนเริ่มติด เพราะรู้สึกว่ามันเป็นกีฬาที่แสดงให้เห็นถึงพลังจริงๆ ทั้งพลังใจพลังกาย ความสามัคคี ดูๆ ไปก็ชวนให้รู้สึกฮึกเฮิมตามไปด้วยค่ะ ยิ่งดูก็ยิ่งชอบ ตอนเขียนเราก็เลยอินมากๆ ค่ะ

จากนั้นมาถึงคาแรกเตอร์ของน้องฟ้า หรือโซระจังของเรา ในหัวเรามีภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เพอร์เฟ็กต์ เด็กผู้หญิงที่มี Flaw อยู่มากมาย ชีวิตที่ขาดๆ เกินๆ ไม่เพียบพร้อม มีไม่ครบอย่างใครเขา แต่เธอก็ยังพยายามใช้ชีวิตให้เต็มที่ในแบบของเธอ เราอยากสื่อให้เห็นมุมมองของเด็กที่ถูกทำร้ายจิตใจมาจนบอบช้ำ จนไม่สามารถก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงแบบที่ควรจะเป็นได้ ทำให้เธอกลายเป็นผีฟ้าโซระ กลายเป็นเด็กที่กดตัวเองให้จมลงอยู่เสมอทั้งที่ในความเป็นจริงเธอก็เป็นเด็กธรรมดาคนนึงที่มีจิตใจดีงามไม่แพ้ใคร

เราอยากให้โซระเป็นเหมือนก้อนพลังมืดหม่นที่รอให้ใครสักคนยื่นคบไฟมาให้ มาคู่กับมาซารุคุงที่สดใสเจิดจ้าเหมือนพระอาทิตย์ค่ะ คิดว่าเค้าน่าจะเติมเต็มกันและกันได้ดี (แล้วก็ดีจริงๆ นะคะ ไม่เชื่อลองอ่านดู >O<)

เรารักเรื่องนี้มาก…ไม่แพ้อีกสี่เรื่องในเซ็ต Nippon เลยค่ะ เราชอบหลายๆ สิ่งในเรื่อง มีหลายฉากที่เราย้อนกลับไปอ่านแล้วต้องอุทานว่า ทำไมมันดียังงี้วะ! (ขออวยตัวเองหน่อย 55555) คือตอนเขียนเราไม่ค่อยได้กำหนดกะเกณฑ์อะไรมาก เราร่างพลอตไว้คร่าวๆ ว่ามันมีเหตุการณ์อะไรบ้าง แล้วก็ปล่อยอารมณ์ไหลไปตามพระเอกนางเอก ปล่อยให้เขาจีบกันเอง (555)

ดังนั้นเราเองก็ตื่นเต้นกับทุกบททุกตอนไม่แพ้คนอ่านเลยค่ะ บางทีเขียนๆ อยู่ก็มีฉากนึงวูบเข้ามาในหัว เหมือนกับว่า…ในสถานการณ์แบบนี้มาซารุจะทำแบบนี้ต่างหาก ซึ่งการกระทำนั่นเราไม่ได้คิดเอาไว้ก่อน มันไม่เหมือนฉากที่เราคิดไว้ แต่ ณ ตอนนั้นเหมือนมาซารุบอกให้เราเขียนไปแบบนั้น เราก็เลยเขียนไปตามที่ใจสั่งมา แล้วเราก็คิดว่ามันออกมาดีจริงๆ นะคะ

(ใบ้ให้ว่าฉากนั้นก็คือ ฉากวันเกิดของโซระในสวนสาธารณะค่ะ 😛 อยากรู้ว่ามาซารุคุงทำอะไรต้องไปหาอ่านเอานะจ๊ะ!)

สุดท้ายนี้ก็อยากให้ทุกคนลองอ่านกันดูนะคะ ใจเราเชื่อว่าเล่มนี้จะให้อะไรคนอ่านมากกว่าเป็นแค่ “นิยายรักหวานแหวว” หรือ “นิยายตาหวาน” ธรรมดาๆ อย่างแน่นอน เพราะเราใช้ใจเขียน และตั้งใจกับมันสุดๆ ค่ะ อ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงแวะมาคอมเม้นต์กันได้น้า~