
บทนำ
あの日、僕らがあの場所ですれ違っていた
(ในวันนั้น…พวกเราได้ผ่านมาพบกันในที่แห่งนั้น)
“หืม?” เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะยิ้ม “เธอไม่มีอะไรที่อยากได้เลยเหรอ”
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้น…”
“แล้ว…”
“แค่ไม่เชื่อว่าขอแล้วจะได้เท่านั้นแหละ” ฉันตอบก่อนจะรีบพูดต่อ “แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้จะลบหลู่ท่านเทพเจ้าของนาย แต่ฉันแค่โตมาพร้อมกับความเชื่อที่ว่าถ้าอยากได้อยากมีอะไรก็ต้องพยายามให้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้นเอง”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็เป็นเรื่องปกติ ยังไงซะมันก็พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ใช่มั้ยล่ะ ไม่มีอะไรยืนยันได้สักหน่อยว่าพรที่ขอไปจะเป็นจริง”
“…”
“แต่บางทีมันก็มีผลทางจิตใจนะ”
“…?”
“ที่เธอพูดน่ะถูกแล้ว ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องพยายามให้ได้ด้วยตัวเอง” เขาว่าพร้อมกับยิ้ม…รอยยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นใบเมเปิ้ลสีแดงที่หลุดจากต้นก่อนจะร่วงหล่นลงบนพื้นด้วยความเร็วสูงก่อนจะพุ่งขึ้นฟ้าอีกรอบด้วยความเร็วไม่ต่างกัน “แต่ในเวลาที่เราทำอย่างเต็มที่สุดๆ จนไม่เหลืออะไรให้ทำได้แล้ว หรือเวลาที่เรารู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ การได้สวดอ้อนวอนหรืออธิษฐานขอพรจากเทพเจ้ามันก็มีคุณค่าทางจิตใจนะ”
“…”
“ไม่เชื่อก็ลองขออะไรสักอย่างดูสิ”
อะไรสักอย่างเหรอ…
“ให้เวลาสองนาที คิดแล้วก็เขียนลงไปซะ เดี๋ยวฉันมา”
เขาพูดทิ้งท้ายไว้อย่างนั้นก่อนจะเดินหายไปอีกทาง ทิ้งให้ฉันยืนจ้องจิ้งจอกมุ้งมิ้งจากปลายปากกาของตัวเองอยู่ลำพัง…
ขอพรงั้นเหรอ ช่างขัดต่อคำสอนจากปากพ่อกับแม่ของฉันเสียจริง พ่อกับแม่ที่พูดให้ฉันฟังตั้งแต่ฉันเริ่มรู้ภาษาว่าไม่ควรเอาความหวังไปฝากไว้กับพระเจ้าหรือเทพเจ้าที่ไหน แต่ให้พึ่งตัวเองเข้าไว้ เพราะสุดท้ายก็มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่จะทำให้ตัวเองสมหวังได้ ถ้าอยากรวยก็ต้องทำงาน อยากฉลาดก็ต้องเรียนหนังสือ อยากประสบความสำเร็จก็ต้องพยายาม อยากมีสุขภาพแข็งแรงก็ต้องรักษาสุขภาพ หรือถ้าอยากมีความสุขก็ต้องทำให้ตัวเองมีความสุข
ถ้าอย่างนั้นจะเหลืออะไรให้ขอล่ะ ฉันยังอยากได้อะไรอีกนะ มีอะไรที่อยากได้แต่ไม่สามารถไขว่คว้ามาได้ด้วยตัวเองบ้าง…
“เอ้า! ยังไม่ได้เขียนอีกเหรอ?” ฮายาโตะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับมือที่ตบลงบนบ่าฉันดังบึ้กจนแทบทรุด -O-;;; “ฮ่าๆ ไม่ต้องคิดเยอะขนาดนั้นก็ได้น่า แค่คิดว่าตอนนี้อยากได้อะไรมากที่สุดก็พอ เช่น…อืม…ขอให้ได้กินอินาริซูชิที่อร่อยที่สุดในเกียวโตด้วยนะคะ! อะไรอย่างนี้”
“เรื่องแบบนั้นก็ต้องมาขอพรด้วยเหรอ -O-; เดินออกไปกินก็ได้แล้ว”
“งั้นขอให้พรุ่งนี้ฝนไม่ตก”
“ก็ไม่ตกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ดูพยากรณ์สิ”
“เธอนี่เป็นเด็กไม่น่ารักเลย =_=” ฮายาโตะบ่นก่อนจะยื่นบางอย่างมาตรงหน้าฉันที่เผลอรับมาอย่างงงๆ -O-;
“อะไรอ่ะ O_O”
“เปิดดูสิ ^-^”
พอเขาพูดอย่างนั้นฉันก็เลยเปิดซองกระดาษอันเล็กของเขาออก…และสิ่งที่อยู่ในนั้นก็คือ…
“น่ารักจัง *O*”
“ใช่มั้ยล่ะ! ฉันก็มีอยู่หนึ่งอัน!” เขาพูดพร้อมกับหันกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ให้ดู และก็มีจิ้งจอกสีขาวตัวเล็กหนึ่งตัวห้อยอยู่จริงๆ “นี่เป็นเครื่องรางของฟูชิมิอินารินะ พกติดตัวไว้จะทำให้มีความสุข!”
“…คือแค่พกติดตัวฉันก็จะมีความสุขเหรอ เป็นไปได้ไง”
“อย่างน้อยเมื่อกี้มันก็ทำให้เธอยิ้มได้ไม่ใช่เหรอ ยิ้มกว้างมากด้วยนะ >O<”
“…!”
“ไม่เชื่อก็ลองพกติดตัวไว้สิ” เขาขยิบตาให้ฉันก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วก็ทำตาเหลือก “อ๊าาา! ชิบแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย!? ฉันไปก่อนนะคาเอเดะ!”
“อ๊ะ…เดี๋ยว…”
“じゃ、またね! (แล้วเจอกัน!)”
จบคำนั้นเขาก็โบกมือให้ฉันแล้ววิ่งหายไปตามเส้นทางที่เรียงรายไปด้วยเสาแดงนับพันต้น ฉันมองตามเขาไปจนกระทั่งมองไม่เห็นเขาแล้ว จากนั้นจึงละสายตากลับมายังแผ่นไม้แผ่นเดิมที่ยังอยู่กับฉันไม่ไปไหน
อยู่ดีๆ ก็โผล่มา…แล้วก็วิ่งหายไปเร็วยังกับเหยี่ยวตัวโต…
จริงสิ…ตัวคันจิในชื่อของเขาก็แปลว่าเหยี่ยวนี่นา…
“またって、いつなの?(ที่ว่าแล้วเจอกันใหม่น่ะเมื่อไหร่กัน)”
ฉันพึมพำกับเครื่องรางจิ้งจอกขาวในมือที่เขาให้มาก่อนจะแหงนหน้ามองตัวศาลเจ้าตรงหน้าที่เต็มไปด้วยแผ่นไม้ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเขียนคำอธิษฐานเอาไว้…ในตอนนี้ก็ยังมีคนมาเขียนแล้วก็เอาไปแขวนอยู่เรื่อยๆ…
‘แต่ในเวลาที่เราทำอย่างเต็มที่สุดๆ จนไม่เหลืออะไรให้ทำได้แล้ว หรือเวลาที่เรารู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ การได้สวดอ้อนวอนหรืออธิษฐานขอพรจากเทพเจ้ามันก็มีคุณค่าทางจิตใจนะ’
คำพูดของฮายาโตะเมื่อกี้แวบเข้ามาในหัวฉัน…ได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำให้ฉันนึกออกในที่สุดว่าจะอธิษฐานอะไรกับท่านเทพอินาริดี แล้วพอคิดได้ปุ๊บ ปากกาในมือก็ขยับทันที เขียนคำอธิษฐานที่ฉัน ‘รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้’ ลงไป
เพราะว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากลองขอพรดูสักครั้งตามที่เขาบอก…
เขาที่ทำให้ความเชื่อตลอดสิบห้าปีของฉันสั่นคลอนลงอย่างง่ายดายภายในเวลาแค่ไม่กี่นาที
…
…
…
「中村隼人とまた会えますようにお願いします」
(ขอให้ได้เจอกับนากามุระ ฮายาโตะอีกครั้งด้วยเถอะค่ะ!)

Nippon Honey รักหวานละไมหัวใจสีใบไม้แดง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือ
ราคา 319 บาท (พิเศษ! ซื้อในเว็บแจ่มใสเหลือเพียง 271 บาท)
จำนวนหน้า 448 หน้า

รายละเอียดหนังสือ Nippon Honey
ความในใจจากผู้เขียน
เราเขียนเรื่องนี้ตอนที่ยังเรียนอยู่โอซาก้า ก็เลยอินมากเป็นพิเศษ…
เพราะเปิดเรื่องมาก็อยู่ในแถบคันไซ แถมนากามุระ ฮายาโตะ พระเอกของเรื่องก็เป็นหนุ่มคันไซอีก~
ในเรื่องมีโลเกชั่นที่เราคุ้นเคย (โดยเฉพาะศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่เราชอบที่สุด ไปมาแล้วนับร้อยครั้ง) และภาษาถิ่นคันไซ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เราเจอรอบตัวอยู่ทุกวันจนรู้สึกเคยชิน แล้วก็เผลอตกหลุมรักไปโดยไม่รู้ตัวค่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดถึงชีวิตที่โอซาก้าอยู่เลย แล้วพอเห็นหน้าฮายาโตะ ก็รู้สึก Nostalgic ขึ้นมาค่ะ และด้วยความที่อินไปหมดทุกอย่าง ทำให้เล่มนี้หนากว่าเพื่อนเลยค่า ราคาค่อนข้างแรง อยู่ที่ 319 บาท หนาเป็นประวัติการณ์ของแจ่มใสเลยทีเดียว (555)
แต่ถึงจะหนา เนื้อเรื่องก็เข้มข้นทุกบททุกตอนนะเออ คาแรกเตอร์แบบฮายาโตะเนี่ยเป็นอะไรที่เราอยากเขียนมานานแล้ว คือจะไม่ใช่หนุ่มหล่อซึน หนุ่มกินเนื้อ เจ้าชู้ หัวโจกโรงเรียนที่ฮอตแน่นอน นักอ่านชอบแน่นอนอย่างโคเฮ แต่จะเป็นแนวหนุ่มเฮฮา ตัวโจ๊ก ตลกนิดๆ มีนิสัยเหมือนแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ แต่เราชอบมากๆ เป็นหนึ่งในพระเอกในดวงใจที่เคยเขียนมาเลยค่ะ เขียนไปก็หลงรักนางไป มีความอบอุ่นอ่อนโยนที่พระเอกคนอื่นๆ สู้ไม่ได้ แถมยังมีความจริงใจ หนักแน่น มั่นคง บทจะฮอตขึ้นมาก็เล่นเอาหัวใจระทวย อะไรแบบนี้ค่ะ (แต่ปกติจะทึ่มๆ ซื่อๆ สักหน่อยนะ :P)
อยากให้ลองอ่านกันดูจริงๆ ค่ะ ถึงราคาจะแรง แต่รับประกันว่าคุ้มค่าแน่นอน! มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วประเทศ หรือสั่งจากในเว็บแจ่มใสก็ได้ค่า กดสั่งซื้อข้างบนเลย~