การสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่น

เชื่อว่าปัญหาหนักอกหนักใจอีกอย่างหนึ่งของคนที่กำลังมองหางานในบริษัทญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นนิสิตนักศึกษาจบใหม่ หรือวัยทำงานอยากเปลี่ยนงานก็ตาม น่าจะเป็น ‘การสัมภาษณ์งาน’ เนี่ยแหละ เพราะเราเองสมัยเรียนจบเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นใหม่ๆ ก็กังวลไม่น้อย ถึงขั้นไปเดินหาหนังสือวิธีการเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่น อะไรงี้มานั่งอ่านเลยทีเดียว

ขึ้นชื่อว่า ‘คนญี่ปุ่น’ ยังไงก็ต้องมาพร้อมกับกฏระเบียบและมารยาทมากมายก่ายกองอยู่แล้ว ไม่ผิดค่ะ เค้ามีพิธีเยอะ แต่ถ้าจับทางถูก การสัมภาษณ์งานรวมไปถึงการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถอยู่แล้วจ้า ดังนั้นใครที่กำลังมองหางานในบริษัทญี่ปุ่น หรือมีโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์ไปแล้วและกำลังเตรียมตัวอยู่ เรามีเคล็ดลับน่ารู้มาบอกจ้าาา~

การเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่น

1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย

บางบริษัทอาจไม่ต้องถึงขั้นใส่สูทเต็มยศ แต่ถ้ามีจะใส่ไปก็ไม่เป็นไรค่ะ ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสุภาพ กับกางเกงขายาวหรือกระโปรงที่ไม่สั้นเกินไปค่ะ ขอความกรุณาไม่ลากแตะหรือใส่ยีนส์ขาดๆ มาเด้ออออ สีสันมีได้แต่ไม่ควรฉูดฉาดเกินไป ผมเผ้าจัดมามาให้เรียบร้อยไม่รกรุงรัง

2. ตรงต่อเวลา

คำว่าตรงต่อเวลาในที่นี้หมายถึงไปให้สมควรแก่เวลาค่ะ และไม่ใช่แค่ไปให้ถึง ‘ก่อน’ เวลาอย่างเดียวด้วย เพราะการไปถึงก่อนเวลานัดมากเกินไปอาจทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนได้ (เช่น เขาอาจมีนัดอื่นอยู่ หรือคนสัมภาษณ์ยังไม่มา หรือมีประชุมบริษัทอยู่ ฯลฯ) ดังนั้นจึงควรกะเวลาให้พอเหมาะค่ะ แนะนำให้ไปถึงก่อนเวลานัดสัมภาษณ์ไม่ควรเกิน 5-10 นาที (แน่นอนอยู่แล้วว่าห้ามไปสายเด็ดขาด คนญี่ปุ่นซีเรียสเรื่องเวลามากๆ ค่ะ)

3. มั่นใจในตัวเองแต่ก็ต้องถ่อมตนด้วย

อยากให้เรามั่นใจในตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่จะพูด ไม่งั้นมันจะแสดงออกทางสีหน้าและท่าทาง ทำให้ดูขาดเสน่ห์ไป แต่!! ถ้ามั่นใจเกินไปจนดูโอ้อวด จะกลายเป็นติดลบไปได้ค่ะ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยปลื้มคนที่พูดจายกยอตัวเองหรือมั่นใจเกินร้อยไปสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามันยากไป มีเทคนิคง่ายๆ คือ เล่าเท่าที่จำเป็น และอย่าชิงพูดว่า “ฉันเป็นอย่างนั้น ฉันเป็นอย่างนี้” โดยที่เขายังไม่ได้ถามค่ะ

4. เป็นผู้ฟังที่ดี

เวลานายญี่ปุ่นพูดอะไรอย่าเพิ่งพูดแทรกพูดขัดนะคะ เป็นการเสียมารยาทมากๆ การเป็นผู้ฟังที่ดีจะทำให้เขารู้สึกดีกับเราด้วยนะ

5. ต้องรู้จักข้อดีและข้อเสียของตัวเอง (สำคัญมาก!)

เวลาเราเข้าไปนั่งสัมภาษณ์พนักงานใหม่กับนาย จะมีคำถามนี้แหละที่นายถามทุกครั้ง ว่าให้บอกข้อดีกับข้อเสียของตัวเองมา และจะเป็นคำตอบที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ชอบ Blank ใส่ แล้วสุดท้ายก็จะตอบมาแบบกว้างๆ อ้อมโลก และนายก็จะบอกว่า คำตอบของคนไทยมักจะเป็นคำตอบที่ดูผิวเผินมาก เหมือนไม่ได้รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง เช่น ถ้าตอบว่า ข้อดี ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ข้อเสีย หนูไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษค่ะ คือนี่มันเป็นอะไรที่กว้างไป เราฟังแล้วนึกไม่ออกเลยว่าคุณเป็นคนแบบไหน

ทางที่ดีควรคิดไปล่วงหน้า ไม่ควรตอบโอเวอร์เกินไป ให้มันตามจริง เป็นตัวของตัวเอง และควรเตรียมตัวอย่างสำหรับอธิบายเพิ่มเติมไปด้วย เช่น ถ้าบอกว่าเราเป็นคนชอบชาเลนจ์ตัวเอง ก็อาจจะเสริมเพิ่มไปว่าเราเคยทำอะไรมาบ้างที่เป็นการท้าทายตัวเอง อะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนข้อเสีย ไม่ควรบอกอะไรที่เป็นการทำร้ายตัวเอง เช่น ไม่ชอบทำงานเป็นทีมค่ะ หรือ ผมความอดทนต่ำมากครับ ฟังแล้วอาจโดนกาหัวเรซูเม่เอาดื้อๆ ได้เลยน้า

6. เตรียมสมุดโน้ตกับปากกาไปให้พร้อม

คนญี่ปุ่นชอบมากเวลาเราจดโน้ต อันนี้จริงๆ ไม่โกหก จดเข้าไปค่ะ ยิ่งเวลาเขาแนะนำบริษัทหรือการทำงานในบริษัทเนี่ย จดไปเลย เพราะถ้าไม่จด คนญี่ปุ่นบางคนอาจจะคิดว่าเราไม่ได้ตั้งใจฟังค่ะ (เคยโดนมาแล้วจ้าาาา)

7. นั่งหลังตรง มองตาอีกฝ่าย พยักหน้าเป็นระยะ

การนั่งหลังตรงจะดูเป็นคนบุคลิกภาพดี และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สัมภาษณ์จะทำให้ดูมีความกระตือรือร้น สนใจอยากเข้าทำงานที่นี่จริงๆ ค่ะ

8. เตรียมคิดคำถามไปถามเขาด้วย

ทุกครั้งเวลาคุยกันจบ นายจะถามกลับเสมอว่า คุณมีคำถามอะไรไหม ตรงนี้ถ้าเรามีคำถามเด็ดๆ เจ๋งๆ มันจะทำให้คะแนนเราเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ ดีกว่ายิ้มแหยๆ เงียบจนเกิน Dead Air แล้วก็บอกว่า อ๋อ ไม่มีค่ะ มันจะดูเหมือนเราไม่ได้ต้องการจะทำงานที่นี่จริงๆ ไม่ได้สนใจในบริษัทนี้จริงๆ อะไรแบบนี้ค่ะ ควรลิสต์ไว้คร่าวๆ และระหว่างฟังเค้าเล่าเรื่องบริษัทก็พยายามฟังและคิดตาม ว่าเราควรถามอะไรกลับไปค่ะ

9. ศึกษาเรื่องบริษัทที่จะไปสัมภาษณ์ล่วงหน้า

เวลาเขาถามว่า ทำไมถึงมาสมัครงานที่บริษัทนี้ จะได้ตอบได้แบบไม่มีติดขัดนะคะ ไม่ควรตอบแบบ “เพราะแค่อยากทำงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น” หรือ “เพราะบริษัทนี้ใกล้บ้าน” อะไรแบบนี้ค่ะ จะโดนหักคะแนนเอาได้ง่ายๆ นะคะ เพราะถ้าตอบว่าอยากทำงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น งั้นก็แปลว่าบริษัทไหนก็ได้ไม่ต้องเป็นที่นี่ก็ได้สิ อะไรแบบนี้ค่ะ

10. แนะนำตัวเองให้น่าสนใจ

ลิสต์ความเป็นตัวเราเอาไว้ล่วงหน้า ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน เรียนอะไรมา ทำอะไรได้บ้าง ชอบอะไรบ้าง ให้อีกฝ่ายรู้จักเรา ไม่ควรจบแค่แนะนำชื่อ อายุ มหาลัยกับคณะที่จบมา แล้วก็จบกัน นิ่ง Dead Air แบบนี้มันจะทำให้บรรยากาศอึมครึมไปค่ะ

ควรเล่าให้เหมือนเรากำลังเล่าเรื่องอะไรสักอย่าง ถึงแม้มันจะไม่ได้โลดโผนมาก แต่เราต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่เหมือนใคร หรือแม้กระทั่งงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ดีได้นะคะ

11. ถ้าฟังไม่ทัน หรือฟังคำถามไม่เข้าใจ ให้รีบขอโทษแล้วถามย้ำอีกครั้ง

กรณีสัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ หากฟังคำถามไม่ทันหรือไม่เข้าใจคำถาม ให้บอกไปตรงๆ ขอโทษไปแล้วให้เค้าถามใหม่ได้เลยค่ะ คนญี่ปุ่นเข้าใจอยู่แล้ว ดีกว่านั่งเอ๋อตอบไม่ได้หรือตอบผิดความหมายมากจ้า

12. หากเคยเปลี่ยนงานมาแล้วหลายครั้ง ควรมีเหตุผลที่ฟังขึ้นมาอธิบายด้วย

คนญี่ปุ่นไม่ค่อยชอบคนที่เปลี่ยนงานบ่อยเท่าไหร่ค่ะ เพราะโดยพื้นฐานคนญี่ปุ่นมักจะหางานทันทีหลังเรียนจบ และทำงานที่บริษัทเดิมไปจนเกษียณ ไม่มีมาเปลี่ยนงานทุกซีซั่นแบบเราสักเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้าเป็นนายญี่ปุ่นที่ค่อนข้าง Conservative หรือเพิ่งมาไทยไม่นานยังไม่เข้าใจ Nature คนไทยเท่าไหร่เขาอาจจะไม่ค่อยโอเคกับกรณีนี้

แนะนำให้เราเตรียมเหตุผลไปอธิบายเพิ่มเติมด้วยค่ะ ว่าเราออกจากที่เก่าทำไม ทำไมถึงคิดจะเปลี่ยนงาน (ไม่ควรตอบว่า ที่เก่าไม่ดี หรือ แค่อยากมองหาโอกาสที่ดีกว่าเดิม อะไรงี้ค่ะ เพราะจะดูเป็นคนไม่มีความอดทน และพร้อมจะไปจากที่ทำงานได้ทุกเมื่อถ้าเจอที่ใหม่ที่ดีกว่า)

13. เตรียมเอกสารไปให้พร้อม

เอกสารที่ใช้ในการสมัครงานต่างๆ เรซูเม่ เอกสารการเรียน/การทำงาน พอร์ทงาน (ถ้ามี) ควรเตรียมเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นไป เพราะคนสัมภาษณ์อาจเป็นนายญี่ปุ่นที่อ่านภาษาไทยไม่ออกค่ะ

14. พูดขอบคุณทุกครั้ง

ก่อนเริ่มสัมภาษณ์ ให้ขอบคุณเค้าที่สละเวลามาสัมภาษณ์เราวันนี้ และหลังจบการสัมภาษณ์ก็ขอบคุณเค้าอีกครั้งหนึ่งที่ให้โอกาส โค้งให้เค้าด้วยตามมารยาทธุรกิจญี่ปุ่น ก่อนเดินออกก็เก็บเก้าอี้กลับเข้าใต้โต๊ะให้เรียบร้อยเหมือนตอนแรกด้วยค่ะ

15. พูดเสียงดังฟังชัด ไม่งึมงำ ไม่ตะโกน ไม่รัวเร็วเกินไป และไม่นิ่งจนเกิด Dead Air

ตามนั้นเลยค่ะ พยายามอย่าให้บทสนทนาขาดช่วง อย่าเอาแต่โม้เรื่องตัวเอง อย่าถามคำตอบคำจนอีกฝ่ายไปต่อไม่ถูก ใครกลัวบรรยากาศกดดันเกินไปจะยิงมุกให้พอมีเสียงหัวเราะก็ได้แต่อย่ามากเกินไป จะดูไม่โปรค่ะ

สัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นยังไงให้ได้งาน?

สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยนะคะ ว่ามีความพร้อมแค่ไหน และเราเหมาะกับบริษัทนั้นๆ แค่ไหน ไม่ว่ายังไงก็ตามขอให้เรามีความมั่นใจ เตรียมตัวไปให้ดี ตั้งใจกับการสัมภาษณ์ ไม่เกร็งไม่ตื่นเต้นเกินไป แบบว่าทำให้เต็มที่ก็พอแล้วค่ะ 🙂

หรือใครอยากเตรียมพร้อมขั้นกว่า สามารถลองเข้าไปดูตัวอย่างคำถามที่พบบ่อยในการสัมภาษณ์งานได้น้า เผื่อจะได้เตรียมคำตอบไปเพื่อความมั่นใจ+++ จ้า ตามลิ้งไปเลย >> 20 คำถามที่พบบ่อยในการสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่น

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะค้า ใครมีคำถามอยากปรึกษาอะไรก็ถามมาได้เลยจ้า ตอบได้จะตอบแน่นอนนนนน~

————————————–

สุดท้ายนี้ขอขายของหน่อยแล้วกัน ไม่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน แต่เกี่ยวกับการเรียนรู้บรรยากาศการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นไว้ล่วงหน้านะเออ! เพียงอ่านนิยายเรื่อง “นายคะ อย่ามาอ่อย” เล่มล่าสุดของเราเท่าน้านนนนนนนนนน #ขายของไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ 555555

แต่เอาจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Setting เป็นบริษัทญี่ปุ่นค่ะ ตัวละครมีทั้งนายญี่ปุ่นและพนักงานคนไทยมากมาย เขียนจากประสบการณ์ตรงเลยนะเออ สนุก ฟิน อิน ได้ความรู้ ไม่อยากให้พลาดกันเลยจ้าาาาา วางแผงแล้ววันนี้ตามร้านหนังสือทั่วประเทศหรือสั่งออนไลน์ได้ ที่นี่

นายคะ อย่ามาอ่อย