GO OKINAWA! อยากไปโอกินาว่าทำไงดี?

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปโอกินาว่า!

 

อยากไปโอกินาว่าทำไงดี?

 

อยากไปโอกินาว่าทำไงดี? เริ่มจากตรงไหนดี? เริ่มจากนี่เลยค่ะ!

  • การจองตั๋วเครื่องบิน
  • การจองรถเช่า
  • การจองทีพัก
  • การจัดกระเป๋าเสื้อผ้า
  • การจอง Pocket Wifi

 

♥ การจองตั๋วเครื่องบิน

 

Fly Peach

Fly Peach

 

อย่างที่น่าจะพอทราบกัน (เพราะช่วงนี้เขาโหมโปรโมตหนักมากเว่อร์) สายการบิน Low Cost สีม่วงแดงสุดน่ารักของญี่ปุ่นอย่าง Peach เขาเปิดรูท กรุงเทพ – โอกินาว่าแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี 2017 ที่ผ่านมา! กับราคาที่ถูกจนสะเทือนอกสะเทือนใจ พานจะเผลอมือลั่นกดจองอยู่ร่ำๆ ไป ถามว่าถูกแค่ไหน? ถ้าเป็นราคาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 3,180 บาทต่อเที่ยว

แต่ถ้าเป็นช่วงโปร (ขอบอกว่าจัดโปรบ่อยซะด้วยสิ กดติดตามเพจ ติดโปร เอาไว้เลยถ้าไม่อยากพลาด เพราะเราก็จองตั๋วโปร Peach ไปกลับสามพันนิดๆ ได้เพราะตามเพจนี้อยู่ค่ะ)

เนื่องจากเป็น Low Cost ราคานี้จะไม่รวมค่าโหลดกระเป๋านะจ๊ะ คือต้อง Carry On เท่านั้น (ค่าโหลดกระเป๋า 980 บาท) ซึ่งจริงๆ ไปโอกินาว่า เสื้อผ้าจะบางเบาเนื่องจากอากาศร้อน (โคตร) ดังนั้นกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าลากใบเล็กก็พอแล้วค่ะ เพราะของให้ช้อปปิ้งก็มีไม่เยอะขนาดนั้น

แต่ถ้าไปกันหลายคน เราแนะนำให้หารค่าน้ำหนักกระเป๋ากันค่ะ แบบตอนเราไปกัน 5 คน ก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าโหลดแค่หนึ่งใบแล้วใส่ของรวมกัน 5 คน กับกระเป๋า Carry On อีกคนละใบสองใบ ที่พอเหลือเฟือค่ะ 🙂 ขนาดอินางหอบสมบัติบ้าพร้อมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเดินแฟชั่นโชว์วันละสองชุดนะเนี่ยยยยย

 

สรุปค่าตั๋วเครื่องบิน (เดินทางต้นเดือนสิงหาคม 2017)

 

ค่าตั๋วไปกลับ : 3,360 บาท

ค่าโหลดกระเป๋า : 980 บาท

รวมค่าภาษีสนามบินและภาษีอื่นๆ แล้วก็ตกอยู่ที่คนละ 4,872 บาทค่ะ ซึ่งถ้าเจอโปรถูกกว่านี้ก็จะยิ่งถูกไปกันใหญ่ และไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเทนะคะ บินตรงเวลาเป๊ะๆ เลยค่ะ ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกันว่าจะโดนปล่อยเกาะกลางทางหรือเปล่า แต่หลังจากเกิดปัญหาไฟล์ตดีเลย์เมื่อตอนต้นปีครั้งนึงแล้วสายการบินนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีกนะคะ บินตอนตีหนึ่งถึงตอนเช้าเที่ยวต่อได้ เวลาดีสุดๆ เลยค่ะ

ทางไปจองตั๋ว : Fly Peach

 

♣ การจองรถเช่า

 

เช่ารถขับที่โอกินาว่า

เช่ารถขับที่โอกินาว่า

 

การเดินทางที่สะดวกที่สุดในโอกินาว่าคือการเช่ารถขับค่ะ เพราะรถบัสรถไฟเขาไม่ได้มีครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่อย่างในเมืองใหญ่ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ไกลกันพอสมควรด้วยค่ะ

การจองรถต้องจองก่อนเดินทางอย่างน้อยสามวันนะคะ (บางเจ้าอาจมีให้จองแบบกระทันหันได้ แต่เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้เผื่อเวลาค่ะ จองล่วงหน้าสักเจ็ดวันกำลังดี

วิธีการจองก็แค่เลือกเว็บจองรถสักเว็บ กรอกวันไปวันกลับ แล้วก็เลือกรุ่นที่ต้องการเท่านั้นเองค่ะ ส่วนใหญ่เค้าจะให้ตัดบัตรเครดิตเลย เราก็แค่ปรินท์ใบยืนยันการจองไปรับรถแบบสวยๆ ชิลๆ ก็พอค่ะ

สิ่งที่ห้ามลืม :

  1. ใบขับขี่สากล
  2. พาสปอร์ต
  3. บัตรเครดิต (ชื่อต้องตรงกับชื่อผู้จอง)
  4. Print ใบจองรถไปด้วยเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ
  5. ถามพนักงานให้ชัวร์ว่าเติมน้ำมันอะไร เพราะตอนคืนรถต้องเติมให้เต็มถังก่อนค่ะ (แต่ส่วนใหญ่จะเติม Regular ปกตินะคะ)

Tips : แนะนำให้ซื้อประกันรถไว้ด้วย เพื่อความสบายใจค่ะ

Life Hacks : ที่ญี่ปุ่นก็มี Easy Pass นะคะ จะเรียกว่า ETC Card แนะนำให้จองตัวนี้ไปด้วยเลย จะได้ไม่ต้องคอยหยิบเงินมาจ่ายตอนขึ้นทางด่วนค่ะ สามารถขับผ่านไปได้เลยแล้วค่อยมาคิดบัญชีกันตอนคืนรถค่ะ สนนราคาค่าเช่า ETC Card จะอยู่ที่ 324 เยน (แต่บางบริษัทก็ไม่มีให้เช่า ต้องเช็คให้ดีๆ ก่อนนะคะถ้าอยากจะเช่า)

 

พิกัดไปจองรถ

  • Rentalcars.com
    (เราจองจากเว็บนี้ค่ะ มีภาษาไทย และมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกเปรียบเทียบราคาได้ ETC Card แล้วแต่ว่าเลือกแบรนด์ไหนค่ะ)
  • Times Car Rental
    (อันนี้จะเป็นภาษาอังกฤษ และมีหลายยี่ห้อให้เลือกตามความชอบเลยค่ะ มี ETC Card ให้เช่า)
  • Toyota Rent-A-Car
    (เว็บนี้มีภาษาไทย และรถจะเป็นยี่ห้อโตโยต้าเท่านั้นค่ะ สถานที่รับรถครอบคลุมทั้งประเทศเลย มี ETC Card ให้เช่าด้วย แต่ต้องโทรหรือส่งเมลไปขอเช่าเอง เจ้านี้เราก็เคยใช้ตอนไปเที่ยวแถบจังหวัดชิกะ ก็โอเคอยู่นะคะ)

 

วิธีเดินทางไปจุดขึ้นรถ Shuttle Bus ของบริษัทเช่ารถ

 

Shuttle Bus ไปยังจุดขึ้นรถบัส

Shuttle Bus ไปยังจุดขึ้นรถบัส

 

คืองี้ ด้วยความที่ Peach เป็นสายการบิน Low Cost  ทางสนามบินก็เลยมอบเทอร์มินัลส่วนตัวให้แม่นางพีช (ไปใช้คู่กับ Vanilla ที่เป็นสายการบิน Low Cost ของไต้หวันอีกเจ้านึง) มีชื่อว่า LCC Terminal ค่ะ ดูพรีเมียมสุดอะไรสุด

ส่วนวิธีหา Shuttle คันนี้ก็ไม่ยากเลยค่า เพราะเค้าบังคับออกตรงทางออกเดียวอยู่แล้วค่ะ พอเดินผ่านตม.เข้ามาก็จะเห็นคนยืนต่อแถวรอที่ประตูในรูปด้านบน ก็ไปต่อตรงนั้นแหละค่ะ ขึ้นบัสคันเดียวกันทุกคนแน่นอน

พอไปถึงแล้วก็จะเห็นคนจากบริษัทรถเช่ายืนถือป้ายกันเต็มไปหมดเลยค่ะ เราก็เดินไปที่ป้ายรถของบริษัทที่เราจองไว้ หรือดูจากป้ายชื่อบริษัทเอาก็ได้ค่ะ เราจะต้องนั่งรถต่อจากนี้ไปที่ศูนย์รถของบริษัทรถเช่าอีกทีนึงค่ะ (หรือถ้าใครจะเดินทางด้วยรถบัสเข้าเมือง ก็ต้องต่อรถ Shuttle But จาก LCC Terminal ไปยัง Domestic Terminal เหมือนกันค่ะ)

 

ทางไปขึ้นรถ Shuttle Bus

ทางไปขึ้นรถ Shuttle Bus

 

แอบเม้าท์นิดนึง ตอนขากลับอินางโง่จนลืมดู ไปลงผิดเทอร์มินัลมาแล้ว ดังนั้นดูให้ดีๆ นะคะ เครื่องเราจะแลนดิ้งที่ LCC Terminal และเราก็ต้องมาขึ้นเครื่องบินที่เดิมค่ะ อย่าไป International Terminal เด็ดขาดนาจา ไม่งั้นต้องเดินย้อนกลับมาที่ Domestic Terminal แล้วค่อยต่อ Shuttle Bus ไปที่ LCC Terminal อีกทีนึง

ถ้าจะให้ดี ขากลับบอกคุณโชเฟอร์ของบริษัทรถตอนเราไปคืนรถก่อนกลับไว้เลยดีกว่า ว่าเราบิน Peach จะไปเทคออฟที่ LCC Terminal เพื่อความปลอดภัย และไม่โป๊ะแบบอินางที่มั่นหน้า บอกว่าบิน 国際線 (International) จนเกือบไม่ได้กลับประเทศนาจา

 

♠ การจองที่พัก

 

ตอนไปเราจองกับ Airbnb ค่ะ เพราะช่วงสิงหาเป็นหน้าร้อน แบบว่าช่วงพีคของโอกินาว่านั่นแหละ โรงแรมก็เลยจะแพงเป็นพิเศษ บวกกับเราจองแบบกระชั้นชิดมาก ที่พักเลยไม่ค่อยจะมีเหลือให้ไปพักสักเท่าไหร่ T_T

เลยมาลงเอยที่ Airbnb จองเป็นบ้านพักทั้งหลังเลยค่ะ อยู่ในย่านใกล้ๆ กับ 国際通り(Kokusai-Douri) ย่านท่องเที่ยวครื้นเครงของโอกินาว่า ที่เลือกตรงนี้เพราะจุดประสงค์คือการไปเหล่หนุ่มๆ แดนสวรรค์ทางใต้กล้ามแน่นๆ ผิวแทนๆ ฮอตเว่อร์ค่ะ #ผิด

เป็นบ้านหลังใหญ่เลยทีเดียว พักกันสบายสุดๆ ค่ะ สนนราคาสำหรับพัก 3 คืนก็ตกอยู่ที่ประมาณ 20,300 บาท (หารกันห้าคนเหลือตกคนละ 1,353 บาทต่อคืน) จัดว่าคุ้มมากทีเดียวเพราะบ้านมีครบทุกสิ่งอัน แถมยังอยู่สบายอีกต่างหาก ซึ่งตรงนี้ถ้าใครมือดีได้โรงแรมราคาย่อมเยาว์กว่านี้ ก็จะยิ่งลด Cost ไปได้อีกนาจาาาา~

 

Keyword ชื่อย่านที่ควรไปพัก (ถ้ามีเวลาแนะนำให้ไปทั้งสองย่านเลยนะคะ)

  • Kokusai – Douri : เหมาะสำหรับคนชอบเดินช้อปปิ้ง เดินกินบรรยากาศเมืองยามค่ำคืน จะเป็นย่านร้านค้า มีดองกี้โฮเต้ มีอิซากายะ (ร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น) ครึกครื้นทั้งตอนกลางวันและกลางคืนค่ะ
  • Nago (ชายฝั่งทะเลตะวันตก) : จะอยู่ตอนบนฝั่งตะวันตกของโอกินาว่า มีรีสอร์ทริมทะเลมากมาย มีชายหาดสวยๆ สมกับการมาเที่ยวสวรรค์แดนใต้อย่างแท้จริงค่ะ จะสามารถไปเที่ยวได้ทั้ง Okinawa Churaumi Aquarium, แหลม Cape Manza, หาด Zanpa และอื่นๆ อีกมากมาย ไว้จะมารีวิวหาดทั้งหลายให้ฟังใน Entry ถัดๆ ไปค่ะ ใครกลัวพลาดก็กดตามไปดูได้เลยในหัวข้อ Okinawa

 

♠ สภาพภูมิอากาศ

 

อากาศร้อนตลอดปีเลยข่าาาา และอาจจะมีฝนตกบ้างประปราย (หรือตกอย่างหนักหน่วงช่วงไต้ฝุ่นเข้า ต้องเช็คสภาพอากาศดีๆ ก่อนไปนะคะ!)

ช่วงหน้าหนาว หนาวสุดอย่างมากก็ใส่แค่แจ็คเก็ตหรือคาร์ดิแกนสักตัวก็อยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นหน้าร้อน (โดยเฉพาะช่วงพีค 真夏 อย่างเดือนสิงหาคม) จะร้อนแบบ ร้อนนนนนนนนนนนนนน แทบจะใส่บิกินี่เดินอยู่แล้วค่า แต่ถ้าใครอยากรู้ละเอียดขึ้นเกี่ยวกับไอเดียการเลือกเสื้อผ้าไปโอกินาว่าก็คลิกเลยค่า~ GO OKINAWA! ไปโอกินาว่าจัดกระเป๋าเสื้อผ้ายังไงดี?

 

♦ การจอง Pocket Wi-Fi

 

ส่วนตัวเราชอบ Pocket Wi-Fi มากกว่าอินเตอร์เน็ตซิม เพราะเราไม่ชอบเปลี่ยนอะไรวุ่นวาย บวกกับเดินทางหลายคน จะได้แชร์กันใช้ได้เพราะยังไงก็นั่งรถไปด้วยกันอยู่แล้ว เรื่องการชาร์ตแบตก็หายห่วง

เจ้าที่เราชอบมากๆ และใช้บ่อยๆ ก็มี Wifi Plus ค่ะ เน็ตดีไม่มีตก แบตอยู่ได้นาน ทน ใช้มาสามรอบไปสองประเทศไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยค่ะ สำหรับการเช่าไปญี่ปุ่นตกวันละ 250 บาท (ถ้าใช้บัตร JCB Platinum มีโปรโมชั่นลดเหลือวันละ 150 บาท ถูกเว่อร์จ้า) แต่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยสามวันนะคะ แล้วก็ไปรับที่เคาน์เตอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย โลเกชั่นดีมาก อยู่ตรงขาออกสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อยู่ระหว่าง Row L กับ K

พิกัดไปจอง : Wifi Plus

แต่ล่าสุดที่ไปมา เราจอง Wifi Plus ไม่ทันเพราะมันกะทันหันไปหมดทุกสิ่ง ก็เลยได้ลองอีกเจ้า ของ Japan Wifi ค่ะ ก็โอเคนะคะ เน็ตแรงอยู่ ใช้ที่โอกินาว่าได้ดีเลย ถึงจะมีปัญหาในวันสุดท้ายนิดนึงตอนที่เน็ตอยู่ดีๆ ก็เทอินาง สัญญาณดับหายไปเสียเฉยๆ แต่ก็แก้ได้ด้วยการปิดเครื่อง ขยับซิมแล้วเปิดใหม่อีกรอบค่ะ (มีแผนก Customer Service ตอบไลน์ในวันอาทิตย์ด้วย ดีงาม)

พิกัดไปจอง : Japan Wifi

ใครมีเจ้าอื่นแนะนำอีกบอกกันได้นะค้า 😀

 

♥ สรุปงบค่าเดินทางและที่พักต่อหนึ่งคน (โดยประมาณ)

 

ตั๋วเครื่องบิน 4,872 THB

ที่พัก 4,060 THB

รถเช่า 1,542 THB

ค่า Pocket Wifi 760 THB

รวม =  11,234 THB

เรตนี้เป็นเรตที่เราไปมานะคะ สำหรับคนอื่นอาจมีถูกกว่านี้หรือแพงกว่านี้ได้ค่า 😀 ถ้าเลือกโรงแรมหรือโฮสเทลที่ถูกกว่านี้ (ซึ่งมีเยอะแยะค่า หาดูได้ตาม Agoda, Traveloka, Expedia แล้วคำนวณราคาเอาได้เลยค่ะ)

 

ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมตรงส่วนไหน โพสต์คำถามไว้ได้เลยนะคะ ถ้าตอบได้จะมาตอบเพิ่มเติมให้ค่ะ! แล้วเจอกันใหม่ใน Entry ถัดไป GO OKINAWA! Day 1 : Churaumi Aquarium → Nago Pineapple Farm → Kouri Island เลยค่า~